วิตามินกินแก้โรคเล็บ เท้า ช่วยคนเป็นโรคเบาหวาน

วิตามินกินแก้โรคเล็บ “เท้า”

เท้า อวัยวะที่ “อาภัพ” ที่สุดของคนเรา เราใช้เขามากที่สุด เขาต้องทำงานให้เราโดยต้องออกแรงมากที่สุด ถ้าไม่มีเขา เราก็ไปไหนไม่ได้ ชีวิตประจำวันก็ต้องสิ้นสุดลงตรงที่กลายเป็นผู้พิการ เพราะไม่มีเขา เราก็อยู่ไม่ได้

แต่อาภัพอย่างไรรู้ไหมครับ เราไม่เคยเอาใจใส่เขาเลยไม่เคยดูทุกข์สุข ไม่เคยรู้ว่าบางครั้งและหลายครั้งเขาต้องอยู่อย่างเจ็บปวดและทรมาน

เอาละครับ ขออนุญาตพูดถึงสาเหตุต่างๆ หรือว่าที่จริงพูดถึงโรคต่างๆ ซึ่งจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม สามารถทำให้เกิดความผิดปกติของ “เท้า” ผู้อาภัพของคุณได้ โรคที่อยากจะเอ่ยถึงก็คือ “เบาหวาน”

โรคเบาหวาน สามารถทำให้เกิดอาการอย่างร้ายแรงเกี่ยวกับนิ้วเท้า

กระทั่งอาจจะเกิดอาการหนักหนาจนต้องถูกตัดนิ้วเท้าได้ฉะนั้น ขอพูดถึงความผิดปกติของนิ้วเท้าเพราะ “เบาหวาน

1. ถ้าต้นเหตุเกิดจากเบาหวาน ก่อนจะแก้ปัญหาเกี่ยวแก่นิ้วเท้า ต้องแก้ต้นเหตุคือเบาหวานให้ได้เสียก่อน

โรคเบาหวานซึ่งจะมีอาการแทรกต่างๆ หลายอาการ และอาการอย่างหนึ่งของเบาหวานซึ่งจะเกี่ยวกับนิ้วเท้าผู้อาภัพโดยตรงก็คือ “มือชาเท้าชา” ถ้าควบคุมเรื่องน้ำตาลสูงจนผิดปกติของเบาหวานได้ อาการมือชาเท้าชาจะหายไปหรือค่อยยังชั่วขึ้นแต่ถ้ายังไม่ค่อยยังชั่ว

วิธีแก้นิ้วเท้าชาจากเบาหวานทำได้ดังนี้

1.1 ให้กินวิตามินซี ขนาด 1,000 มิลลิกรัม ครั้งละ 1 เม็ดหลังอาหาร เช้า - เย็น ทุกวัน จนอาการชาหายไป (ส่วนมากอาการจะดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์)

1.2 กินพืชและผักประเภทเป็นหัว เช่น แครอต ข้าวโพด มันฝรั่ง มันเทศ บ่อย ๆ และมากกว่าที่เคยกินเป็นปกติ ถ้ากินผลไม้ให้กินทั้งเปลือก ประเภทเปลือกบางๆ เช่น องุ่น มะปราง

1.3 แช่เท้าในน้ำอุ่นผสมน้ำเกลือทุกวัน ในขณะที่แช่ให้นวดเท้า โดยเฉพาะฝ่าเท้าให้มาก ๆ

นอกจากนี้ยังมีปัญหาเกี่ยวแก่เล็บที่อยากพูดถึงคือ

2. ถ้าเล็บเท้ามีปัญหา เช่น เล็บแตก เล็บฉีก (รวมทั้งเนื้อแห้งมุมเล็บฉีก เวลารอยฉีกสะดุดกับอะไรจะเจ็บแปล๊บทั้งเจ็บทั้งรำคาญ) และเล็บคุด

2.1 เนื้อรอบเล็บเท้าหรือใต้เล็บเท้าเป็นขุยหรือแห้งเป็นขอบแข็ง เลือดไปเลี้ยงไม่ได้ ทำให้บริเวณเล็บมีสีคล้ำ บางคนเป็นสีดำน่าเกลียด แสดงว่าเล็บเป็นเชื้อรา

ทั้งกรณีข้อ 2 และ 2.1 ให้กินวิตามินช่วย โดยกินวิตามินซีตามคำแนะนำในข้อ 1.1 และให้กินวิตามินบีคอมเพล็กซ์ ขนาด 100 มิลลิกรัม 1 เม็ด 3 มื้อ วิตามินบี 5 ขนาด 500 มิลลิกรัม ครั้งละ 1 เม็ด เช้าและให้กินโยเกิร์ตรสธรรมชาติ วันละ 1 ถ้วย และอย่าลืมแช่น้ำเกลืออุ่น (เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 1 ลิตร) และนวดเท้าในน้ำเกลืออุ่นด้วย

เล็บเท้ามีจุดขาวๆ หลายจุด แสดงว่าร่างกายขาดแคลเซียมและสังกะสี ให้กินแคลเซียมร่วมกับแมกนีเซียม กินแคลเซียมขนาด 100 มิลลิกรัม และสังกะสี ขนาด 100 มิลลิกรัม อย่างละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง
ทั้งหมดนี้อาจจะยังไม่ครบถ้วนขบวนการเกี่ยวแก่การดูแลรักษา “เท้า” ผู้อาภัพของคุณ แต่กระนั้นก็ตาม การที่คุณเจ็บเท้าต้องเดินโขยกเขยก แล้วก็ลามไปถึงการเคลื่อนไหว ต้องปวดต้องเมื่อยตามไปด้วย หรือบางครั้งถึงกับเป็นไข้ต้องลางานนอนอยู่กับบ้าน

แล้วจะทำไงดี

เพียงแต่คุณดูแล “เท้า” ผู้อาภัพของคุณตามหลัก 3 ข้อนี้เท้าของคุณก็จะดีขึ้นจนเป็นปกติในเวลาเพียงชั่วประมาณ 2 สัปดาห์ และถ้าคุณเห็นความสำคัญของเท้าและเรียนอาการผิดปกติของเท้า นิ้วเท้า และเล็บเท้า คุณก็จะทราบอาการสำคัญๆ ของร่างกายภายในและภายนอกได้เป็นอย่างดีด้วย ต่อไปนี้

เป็นรายการพิเศษเกี่ยวกับความสำคัญของเท้าผู้อาภัพของคุณ

เล็บ

(ความจริงรวมทั้งเล็บมือและเล็บเท้าเข้าไว้ด้วยกัน) สีของเล็บควรจะเป็นสีนวลชมพูอ่อนๆ นั่นแสดงว่าคุณมีสุขภาพแข็งแรง ระบบเลือดทั้งตัวของคุณดี ซึ่งเป็นระบบสำคัญที่แสดงว่าร่างกายของคุณแข็งแรงเป็นปกติ อิมมูนซิสเต็ม (IMMUNE SYSTEM) ของคุณแข็งแรงดี

แต่ถ้าตรงกันข้าม เล็บของคุณซีด แข็ง และเปราะนั่นแสดงว่า ระบบเลือดของคุณน่าจะมีปัญหาเสียแล้ว และถ้าเล็บของคุณ (โดยเฉพาะเล็บมือ) มีดอกขาวเหมือนอย่างที่กล่าวถึงในข้อ 3 บางท่านถือโชคถือลางสักนิดจะบอกว่า “เล็บออกดอก โชคดี คุณจะรวยมากๆ”

ความเชื่ออย่างนี้เห็นจะใช้ไม่ได้ ตรงกันข้าม อยากจะขอให้คุณตั้งสติให้ดีๆ มองย้อนไปถึงกิจวัตรประจำวันของคุณคำถามตอนนี้คือ คุณกินอาหารถูกต้องหรือยัง

ที่ถามว่าอย่างนี้ เพราะจากประสบการณ์ซึ่งผมดูแลคนไข้มานาน ได้พบว่า ถ้ามีอาการผิดปกติที่เล็บ ให้ดูเรื่องของอาหารหรือสูตรอาหารของคุณให้ดี เพราะความผิดปกติของเล็บนั้นเป็นเครื่องเตือนว่า คุณกินอาหารไม่ถูกต้อง และสูตรอาหารประจำวันของคุณต้องแก้ไขด่วน ความผิดปกติของเล็บเกี่ยวข้องกับเรื่องโภชนาการตรงเผงเลย

เมื่อเห็นเล็บมือเล็บเท้าผิดปกติ ลองจับมือและเท้าดูจะเห็นว่าค่อนข้างเย็น เลือดมาเลี้ยงส่วนปลายของมือและเท้าไม่ได้ แสดงว่าระบบเลือดกำลังมีปัญหา

ถ้ามีอาการอย่างอื่นเข้ามาแทรก เช่น อ่อนเพลียในตอนเช้ามากๆ นอนตั้งหลายชั่วโมง ตื่นขึ้นมาแล้วก็ยังลุกไม่ไหว มีอาการปวดศีรษะน้อยๆ ในตอนเช้า แต่พอตอนสายๆ หน่อยอาการปวดจะรุนแรงขึ้น แถมยังมีอาการคลื่นไส้อยากอาเจียนด้วย

เอ ถ้าอย่างนี้คงไม่ใช่เรื่อง “เท้าผู้อาภัพ” อย่างเดียวเสียแล้วอาจจะเป็นตัวคุณเองอาภัพไปหมดทั้งตัวแล้วก็ได้

ทำอย่างไรดี ก็สำรวจตัวเองต่อสิครับ สำรวจอย่างไรสำรวจตามสูตร 5 เล็บ ที่ผมเคยแนะนำ

5 เล็บของเราก็คือ

1. กินให้ถูก

2. นอนให้ถูก 

3. ทำงานให้ถูก 

4. พักผ่อนให้ถูก 

5. ออกกำลังกายให้ถูก

เรียบเรียงจากคอลัมน์ ปั้นชีวิตใหม่ด้วยชีวจิต 

ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 8 เมษายน 2554 และวันที่ 15 เมษายน 2555

จาก คอลัมน์ปัญจกิจสุขภาพ นิตยสารชีวจิต ฉบับ 364 (1 ธ.ค. 56)

ขอขอบคุณรูปภาพจาก unsplash
ขอขอบคุณข้อมูลจาก goodlifeupdate