เป็นโรคไตทำไมถึงบวม ?
บวมแล้วอันตรายแค่ไหน น่ากลัวหรือเปล่า ?
ทำยังไงถึงจะไม่บวม ?
อาการบวมน้ำ และอาการน้ำท่วมปอด เป็นอะไรที่ผู้ป่วยโรคไต มีปัญหากันเยอะมากค่ะ
หลาย ๆ คนชอบถามอายว่า ทำไมถึงบวมน้ำ ทั้งที่ดื่มน้ำไม่เยอะ ?
แล้วน้ำท่วมปอดคืออะไร เกิดขึ้นได้ยังไง อันตรายแค่ไหน ?
บทความนี้ อายจะบอกค่ะว่า..การบวมนี้ มันมีที่มาที่ไป และที่สำคัญ ไม่ใช่ว่าเป็นโรคไตแล้วจะบวมกันทุกคน แต่ขึ้นการการดูแลตัว
เองด้วยนะคะ หลายคนเป็นโรคไตมาสิบ ๆ ปี แต่ไม่เคยน้ำท่วมปอดสักครั้งเลยก็มี เพราะฉะนั้น อาการบวมน้ำ จึงสามารถป้องกันได้
แน่นอนค่ะ
แต่ก่อนจะไปดูกันต่อ ถ้าเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์กับคุณ
หรือกับเพื่อน ๆ ของคุณ ช่วยแชร์กันไปได้เลยนะคะ อายจะขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ
ทำไมเป็นโรคไต ถึงบวมน้ำกันเยอะ ?
เป็นเพราะไตเราเสื่อม จึงไม่สามารถขับน้ำและของเสียออกไปได้เหมือนคนปกติทั่วไป เวลาได้รับน้ำเข้ามาในร่างกายมาก
เกินกว่าที่ไตจะขับออกไปได้ (ไตขับน้ำออกไปไม่ไหว) น้ำส่วนเกินนี้ก็จะไม่มีที่ไป เลยวิ่งเข้าไปขังอยู่ในปอด ซึ่งเรียกว่าน้ำท่วมปอด
ทำให้เรามีอาการหายใจหอบเหนื่อย ร่างกายบวมน้ำ จนบางคนบวมถึงขั้นหมดสติ หรือเสียชีวิตได้เลย
ลองนึกตามนะคะ ว่า ปอดเราก็เป็นเหมือนฟองน้ำ 2 ชิ้น ที่ปกติจะเอาไว้แลกเปลี่ยนออกซิเจน เวลาเราหายใจเข้า-ออก
แต่พอเราบวม หรือเกิดภาวะน้ำท่วมปอด ก็หมายความว่า มีน้ำไหลเข้าไปอยู่ในฟองน้ำนั้นแทน ทำให้ร่างกายไม่ได้รับออกซิเจน
นี่ล่ะค่ะ ตัวการที่ทำให้เราหายใจไม่ออก !!
**อาการบวมน้ำเบื้องต้นที่สังเกตได้**
อึดอัด นอนราบไม่ได้ หายใจไม่ออก รู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา ความดันสูง
สำหรับผู้ป่วยฟอกไต ถ้าน้ำหนักก่อนฟอกมาเยอะ หรือมีอาการบวมเยอะ อาจจะต้องให้ออกซิเจนกันระหว่างฟอกกันเลยล่ะค่ะ
ฟังดูทรมานกันมากเลยใช่ไหมคะ ? เพราะงั้น เรามาป้องกันไม่ให้เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นกับตัวเอง หรือคนที่เรารักกันเลยนะคะ
3 วิธีป้องกันการบวมน้ำ…
1 เลือกอาหารโซเดียมต่ำ
เพราะเวลาทานอาหารที่มีโซเดียมสูง มักจะทำให้เราอยากดื่มน้ำมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว หรือเราอาจจะรู้ตัว และดื่มน้ำครั้งละไม่เยอะ แต่
หากดื่มถี่ ๆ ก็ทำให้บวมน้ำขึ้นมาได้เช่นกัน เพราะเวลาเรากินโซเดียมเข้าไป โซเดียมจะไปดึงน้ำในเลือดออกมาอยู่นอกหลอดเลือด
สังเกตได้จากเวลาเรากดลงไปที่ผิวแล้วจะเกิดการบุ๋ม/ยุบลงไป นั่นเอง
ดังนั้น การเลือกอาหารโซเดียมต่ำ จึงเป็นทางเลือกที่ดี ที่จะช่วยให้เราไม่อยากกินน้ำมากขึ้นโดยไม่จำเป็น ช่วยให้ความดันไม่สูง
(กินเค็มมาก ความดันก็จะสูงตามไปด้วย) และยังไม่ทำให้ไตทำงานหนักขึ้นอีกด้วย
ตัวอย่างอาหารโซเดียมสูง ที่เป็นมื้อเช้ายอดฮิต..
2 เลือกดื่มน้ำเปล่าเป็นหลัก
โดยเฉพาะถ้าเป็น ผู้ป่วยระยะฟอกไตจะบวมจากการดื่มน้ำได้ง่ายกว่าระยะอื่น เพราะมีปัสสาวะน้อยมาก ๆ หรือไม่มีปัสสาวะแล้ว เวลา
ดื่มน้ำเข้าไปเท่าไหร่ ก็สะสมอยู่เท่านั้น จึงบวมได้ง่ายมาก ต้องจำกัดน้ำอย่างเคร่งครัด **วันนึงประมาณ 1 ลิตร เท่านั้นเอง
ส่วนระยะก่อนฟอกไตเอง ก็ยังดื่มน้ำได้มาก สำหรับข้อนี้ก็อาจไม่เป็นปัญหาที่น่ากังวลเท่าไหร่ แถมบางคนยังได้รับยาขับปัสสาวะมา
ทาน เพื่อช่วยลดอาการบวม เพราะงั้น การดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ จึงถือว่าเป็นการลดบวม แถมยังช่วยให้ไตไม่ทำงานหนักด้วยนะคะ
3 ทานโปรตีนให้เหมาะสม
เพราะถ้าโปรตีนในเลือดต่ำเกินไป ก็ทำให้บวมน้ำได้เช่นกัน เนื่องจากโปรตีนจะเป็นตัวช่วยเอาน้ำที่เรากิน เข้าไปอยู่ในเลือดของเรา
ไม่ให้ออกมาวิ่งเพ่นพ่านอยู่นอกเส้นเลือด โดยโปรตีนคุณภาพดีที่สุด ก็คือ โปรตีนที่มีของเสียน้อย ย่อยง่าย ไม่ติดมัน
เช่น ไข่ขาว เนื้อปลา เนื้อไก่ เนื้อกุ้ง เป็นต้น
วิธีดูว่า เราทานโปรตีนน้อยเกินไปไหม คำนวณได้จาก
ผู้ป่วยไตระยะ 1-4 และระยะ 5 ที่ยังไม่ฟอกไต : น้ำหนักตัว x 0.6 หรือ 0.8 = โปรตีน (g.) ที่ควรได้รับต่อวัน
ผู้ป่วยไตระยะ 5 ที่ฟอกไตทั้งผ่านเครื่องและหน้าท้อง : น้ำหนักตัว x 1.2 หรือ 1.4 = โปรตีน (g.) ที่ควรได้รับต่อวัน
ส่วนใหญ่แล้ว ผู้ป่วยระยะก่อนฟอกไต มักจะบวมจากโปรตีนต่ำนี่ล่ะค่ะ เพราะว่าระยะนี้จำกัดการทานโปรตีน จึงมีโอกาสที่จะกินน้อย
เกินไป ในขณะที่ผู้ป่วยฟอกไตต้องทานโปรตีนให้เยอะ ๆ จึงไม่ค่อยต่ำ ยกเว้นว่าจะเบื่ออาหาร หรือทานไม่ค่อยได้ ก็ทำให้โปรตีนไม่
เพียงพอได้เช่นกัน
สุดท้ายนี้ สิ่งที่อายอยากจะฝากไว้ก็คือ ความอดทนที่จะยับยั้งชั่งใจ เป็นสิ่งสำคัญมากนะคะ เพราะต่อให้ใครมาบอกอะไรเรามาก
แค่ไหน ถ้าเราไม่อดทนที่จะทำมันอย่างจริงจัง ก็ไม่มีใครช่วยได้เลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าเราพยายามที่จะดูแลตัวเองให้ดี มันอาจจะ
ยากหน่อยในช่วงแรก ๆ จะต้องปรับตัวเยอะ แต่..รางวัลของความอดทน ย่อมคุ้มค่าแน่นอนค่ะ ^^
อ่านจบแล้ว อย่าลืมแชร์บทความนี้ ให้คนที่คุณรักกันด้วยนะค๊าา ขอบคุณมากค่ะ
ข้อมูลอ้างอิง :
เพจ ดูแลผู้ป่วยฟอกไตง่ายนิดเดียว กับ Nurse Mali
คู่มือผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง
ขอขอบคุณรูปภาพจาก kidneymeal
ขอขอบคุณข้อมูลจาก kidneymeal