เยียวยา เบาหวาน แบบศาสตร์แพทย์แผนจีน
โรค เบาหวาน ถือว่าเป็นโรคที่มีมานาน โดยเฉพาะคนทางแถบเอเชียเป็นกันจำนวนมากในภาษาจีนเรียกโรคนี้ว่า “เฉ่าเข่อ” บ่งบอกลักษณะอาการของโรคที่มักปัสสาวะบ่อย หิวน้ำบ่อย ร่างกายซูบผอม และอ่อนเพลียง่าย สาเหตุเนื่องมาจากการพร่องของหยินเเละสารน้ำในร่างกาย
ร่างกายจึงมีความแห้งและความร้อนเกิดขึ้นภายใน อาการนี้ยังสัมพันธ์กับเลือดที่ไม่สมบูรณ์ สำหรับแพทย์ปัจจุบันเรียกโรคเบาหวานลักษณะนี้ว่า เวสติ้งซินโดรม (Wasting Syndrome) ตามความหมายของแพทย์แผนจีน โรคเบาหวานมีสาเหตุจากหยินพร่องเป็นพื้นฐาน (Yin Deficiency) ความหมายของแผนจีน คือ ฝั่งกายเนื้อน้อยไม่ค่อยสมบูรณ์ ภายในร่างกายจึงมีความร้อนและความแห้งเป็นอาการชัดเจนที่แสดงออก ถ้าวิเคราะห์แบบผสมผสานแพทย์ปัจจุบัน คือ เกิดจากความเสื่อมถอยของเซลล์ ร่างกายมีภาวะที่ผลิตอินซูลินได้น้อยลง จึงไม่มีตัวดึงน้ำตาลเข้าเซลล์ให้ใช้เป็นพลังงานในเซลล์ได้ ส่วนใหญ่มักเกิดกับคนไข้ที่เข้าสู่ช่วงอายุมากขึ้น (Aging) และอีกหนึ่งปัจจัยคือ เซลล์มีแรงต้านมากขึ้น ทำให้อินซูลินระดับเดิมไม่สามารถนำน้ำตาลเข้าไปแปลงเป็นพลังงานได้นั่นเอง
โรคนี้มีผลกระทบต่อม้าม ปอด กระเพาะอาหาร และไต ส่วนทฤษฎีแพทย์แผนจีน ร่างกายเราต้องมีหยินและหยางที่สมดุลกัน ถ้าหยินน้อยไป พร่องไป จะทำให้หยางไม่มีที่เกาะ ลอยตัวฟุ้งกระจายผลกระทบคือ เกิดความร้อนขึ้นภายในร่างกาย และหลักการรักษาตามศาสตร์แผนจีนจะเน้นที่การบำรุงไตหยิน เพื่อขจัดความร้อนและสร้างสารน้ำในร่างกาย เพิ่มระดับให้สมดุล
ศาสตร์แพทย์จีนแบ่งโรคเบาหวานเป็น 3 ส่วน
เบาหวานส่วนบน (Upper Jiao) มีอาการเกิดขึ้นช่วงบนร่างกายบริเวณปอด จะหิวน้ำบ่อย คอแห้งกระหายน้ำมาก ปากแห้ง ร่วมกับมีอาการไอแห้ง น้ำหนักลด ร่างกายซูบผอมอย่างเห็นได้ชัด ปัสสาวะบ่อยและจำนวนมาก
เบาหวานส่วนกลาง (Middle Jiao) มีอาการเกิดขึ้นบริเวณส่วนกลางลำตัว ตรงกระเพาะอาหารกับม้าม อาการคือ กินเก่งและหิวบ่อย อุจจาระแห้ง ร่างกายซูบผอมซีด กล้ามเนื้อลีบ
เบาหวานส่วนล่าง (Lower Jiao) มีอาการปัสสาวะบ่อยในปริมาณมาก ร่างกายขับน้ำออกตลอดเวลา เหงื่อออกฝ่ามือฝ่าเท้า และมีอาการร้อนบริเวณหน้าอก
หลักการรักษาโดยวิธีแพทย์แผนจีน
สำหรับการรักษาและบำบัดตามศาสตร์แพทย์แผนจีน หมอพูดถึงเบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes) โดยเริ่มจากการวินิจฉัยตามอาการของแต่ละบุคคลหลักสำคัญคือ การบำรุงหยิน ทำให้เกิดสารน้ำ เสริมความชุ่มชื้น เพิ่มธาตุเย็น เพิ่มสมุนไพรสรรพคุณเย็นและปรับสมดุลด้วยสูตรยาจีน
เพื่อขจัดความแห้งและขับความร้อน ต้องปรับเปลี่ยนยาให้สอดคล้องกับสภาพร่างกายแต่ละบุคคล ร่วมกับปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อให้การรักษาดีขึ้น อย่างไรก็ตามจะเห็นว่าการควบคุมอาการด้วยยาแผนปัจจุบันค่อนข้างคุมได้รวดเร็ว เพราะกระตุ้นการสร้างอินซูลินให้มากขึ้นลดแรงต้านอินซูลินในเซลล์ หรือใช้ฉีดอินซูลินเข้าทดแทน แต่ในแพทย์แผนจีนมุ่งเน้นการปรับสมดุลของร่างกายเป็นหลัก เพื่อให้อวัยวะทำงานปกติ เกิดสมดุลและสามารถสร้างอินซูลินคงที่ได้ และใช้ร่วมกับวิถีการดำเนินชีวิตสมดุล โดยเฉพาะจากอาหารการกินอารมณ์ ความเครียด
โดยรวมสำหรับความคิดหมอมองว่าหลักการรักษาที่ดีที่สุดคือ การรักษาอาการแบบผสมผสาน ระยะแรกต้องควบคุมน้ำตาลในเลือดด้วยแผนปัจจุบันแล้วใช้สมุนไพรจีนร่วมกับการปรับสมดุลร่างกาย ปรับอาหารและอารมณ์ให้สมดุล โดยตรวจเช็กน้ำตาลในเลือดควบคู่กันไป ในขณะที่ร่างกายยังไม่สามารถสร้างสมดุลหรือการทำงานของตับอ่อนยังไม่ดีขึ้น จึงควรรักษาปรับสมดุลแบบแพทย์แผนจีนควบคู่ไปด้วยกันค่ะ
เคล็ดลับการเพิ่มหยิน
สำหรับในกลุ่มผู้สูงอายุ พยายามกินหวานให้น้อยลง เพื่อให้อินซูลินผลิตออกมาได้เพียงพอและสมดุล ควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์
หมั่นออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นเซลล์ให้ทำงานได้เต็มที่ ลดแรงต้านอินซูลินของเซลล์ ควรเลือกประเภทการออกกำลังไม่หนักจนเกินไป พอให้ร่างกายปวดเมื่อยเล็กน้อย ทำติดต่อกันระยะเวลาประมาณ 2 – 4 สัปดาห์จึงเห็นการเปลี่ยนแปลง
ควรเพิ่มแร่ธาตุโครเมียมประมาณวันละ 200 ไมโครกรัม เพื่อช่วยดึงน้ำตาลเข้าเซลล์ได้ดีขึ้น
ควรดื่มน้ำวันละประมาณ 2 – 2.5 ลิตร เพื่อช่วยเสริมหยิน สารน้ำในร่างกายให้สมดุล และช่วยขับความร้อนออกจากร่างกายได้
อาการเบาหวานขึ้นจอประสาทตา (Diabetic Retinopathy)
อาการเบาหวานขึ้นตา คือ ภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงและไม่สามารถเข้าเซลล์เพื่อแปลงเป็นพลังงานได้ น้ำตาลจึงตกค้างอยู่จำนวนมากเกินไปที่บริเวณหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดแข็งกรอบ เปราะแตกง่ายยืดหยุ่นได้น้อยจนตีบตันไปในที่สุด ส่งผลให้เซลล์รอบ ๆ หลอดเลือดไม่ได้รับสารอาหาร
จึงทำให้เส้นเลือดฝอยเล็กที่คอยลำเลียงเลือดมาเลี้ยงจอประสาทตาเสียหาย เส้นเลือดจอประสาทตาอุดตัน ร่างกายจึงมีกระบวนการรักษาตนเองด้วยการสร้างหลอดเลือดใหม่ขึ้นมา เป็นเส้นเลือดฝอยขนาดเล็กที่บริเวณจอประสาทตา จึงทำให้จำนวนเส้นเลือดฝอยที่สร้างใหม่ทับจอประสาทตา จนทำให้มองไม่เห็น ตาบอดได้ การรักษาของแพทย์ปัจจุบันคือ ใช้เลเซอร์จี้ทำลายเส้นเลือดฝอยเก่า ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุผลข้างเคียงของโรคเบาหวานขึ้นตายังมีอาการตาเป็นต้อกระจก กระจกตาพร่ามัว เกิดวุ้นตาลอยในจอประสาทตา ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้ตามปกติ
สมุนไพรจีนช่วยเยียวยา
สำหรับศาสตร์จีน “เก๋ากี้” คือหนึ่งในสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงเลือด บำรุงหยิน เพิ่มความชุ่มชื้น เพิ่มสารน้ำในร่างกาย และมีประโยชน์ต่อตาโดยตรง เพราะมีวิตามินเอสูงซึ่งช่วยบำรุงจอประสาทตา ปริมาณการกินที่เหมาะสมในโดสของลักษณะยาคือ ประมาณวันละ 10 – 15 กรัม หรือกินในมื้ออาหารประมาณ 1 กำมือทุกวัน สามารถใส่เป็นส่วนผสมในน้ำซุปได้แต่วิตามินเอถูกทำลายด้วยความร้อนสูงได้ง่าย แนะนำให้ปิดไฟหลังน้ำเดือดแล้วค่อยใส่เก๋ากี้ลงไป
สูตรชาบำรุงสายตาอายุกว่าสองพันปี
เก๊กฮวย + เก๋ากี้ + รากชะเอมเทศ ใช้ 3 ส่วนผสมนี้ประมาณ 1 หยิบมือ แล้วเทน้ำร้อนอุณหภูมิประมาณ 90 องศาชงดื่มระหว่างวัน ควรดื่มติดต่อกัน 2 สัปดาห์ขึ้นไป ซึ่งสรรพคุณของเก๊กฮวยและรากชะเอมเทศสามารถไล่ความร้อนออกจากดวงตา
ข้อมูลจาก พญ.ศรันยา สาครินทร์ แพทย์แผนปัจจุบัน จบจากโรงพยาบาลรามาธิบดี และศึกษาต่อปริญญาโทด้านฝังเข็มยาจีน นวดทุยนา และโภชนาการจากประเทศสหรัฐอเมริกา
คอลัมน์ หมอจีนประจำบ้าน นิตยสารชีวจิต ฉบับ 510
ขอขอบคุณรูปภาพจาก unsplash
ขอขอบคุณรูปภาพจาก pixels
ขอขอบคุณข้อมูลจาก goodlifeupdate